วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

จุดตั้งต้นของการพัฒนาการศึกษาไทย อยู่ที่ใครอย่างไร"

จากโจทย์ที่ว่า "จุดตั้งต้นของการพัฒนาการศึกษาไทย อยู่ที่ใครอย่างไร"
จากการเสนอความคิดเห็นจากหลายกลุ่ม ซึ่งมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน แยกออกมาเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1. ครอบครัว โดยให้เหตุผลว่าครอบครัวจะต้องมีการเลี้ยงดูที่ดี เข้าใจพัฒนาการ และวางฐานการคิดให้กับคนในครอบครัว
2. ครู จะต้องมีการวิธีการสอนที่มีคุณภาพ
3. ผู้บริหารที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการศึกษา พระราชบัญญัติ แผนพัฒนาการศึกษา
จากความคิดทั้ง 3 กลุ่ม แล้วกลุ่มไหนหล่ะที่จะเป็นจุดตั้งต้นของการพัฒนาการศึกษาไทย


ตามความคิดเห็นของข้าพเจ้า คิดว่า ครอบครัว เพราะว่า “บ้าน เปรียบเสมือนโรงเรียนแห่งแรกของเด็ก” พ่อ แม่ ก็ เปรียบเหมือนครูคนแรกของลูก ดังนั้นข้าพเจ้าจึงได้ค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนความคิดดังนี้

การสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ในระดับครอบครัว มีเหตุผล 4 ประการ คือ
1. ครอบครัวเป็นรากฐานของชีวิตและความสัมพันธ์ของผู้คนในสังคม ชุมชน ที่สร้างการเรียนรู้และความผูกพันระหว่างกัน ถ้าความเป็นครอบครัวนั้นๆ อ่อนแอ ไม่เข้มแข็ง การสร้างบุคคลแห่งการเรียนรู้จะเกิดผลดีได้อย่างไร
2. ครอบครัวเป็นรากฐานที่สำคัญของการพัฒนาทุกสิ่ง ถ้าไม่ส่งเสริมการเรียนรู้และการสร้างความรู้ของคนในครอบครัว เพื่อนำไปสู่การพึ่งพาตนเองและการสร้างความสุขของครอบครัว จะนำไปสู่การพัฒนาชุมชน สังคม ประเทศชาติได้อย่างไร
3. ครอบครัวถูกกระทำหรือเป็นผู้เสพนวัตกรรมทั้งสิ่งของ วิธีคิด และกระบวนการของคนอื่นมามากมาย การที่ครอบครัวจะสร้างนวัตกรรมของตนเองขึ้นมาจะต้องอาศัยฐานคิดสภาพแวดล้อมที่ตนเองมีอยู่ และปรับวิธีคิดที่เกิดจากการเรียนรู้ไปใช้ในการจัดการความสัมพันธ์และการทำงาน หรือกล่าวอีนัยหนึ่งว่า ถึงเวลาที่ครอบครัวจะต้องลุกขึ้นมาจัดการตนเองเสียใหม่
4. ในยุคโลกาภิวัฒน์หรือโลกไร้พรมแดน มีการแข่งขันและการครอบงำสูง ครอบครัว/ชุมชน จะต้องมีความสามารถในการนำความรู้มาสร้างนวัตกรรมเพื่อใช้พลังขับเคลื่อนในการพึ่งพาตนเองและการพัฒนาสังคม ความรู้และนวัตกรรมที่สร้างขึ้นมานั้นจะต้องก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและเสริมสร้างวัฒนธรรมที่ให้คุณค่ากับการเรียนรู้และศักยภาพในการพัฒนาท้ายที่สุด คงเป็นคำถามสุดท้ายที่จะถามท่านผู้อ่านว่า ณ เวลา นี้ ท่านได้สร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ในครอบครัวและตัวท่านแล้วหรือไม่อย่างไร “คำตอบสุดท้ายน่าจะอยู่ที่ตัวท่านเองในฐานะผู้จัดการองค์ความรู้ที่ผ่านประสบการณ์ของชีวิตมาแล้วอย่างมากมาย ไม่ต้องรอให้ถึงวันพรุ่งนี้ แต่ท่านควรลงมือทำซะเดี๋ยวนี้ เพราะนั่นคือ คำตอบของนวัตกรรมการเรียนรู้ของครอบครัว... คือ... การพัฒนาที่ยั่งยืน
ที่มาของข้อมูล : บางส่วนของเอกสารจากเว็บ http://learners.in.th/file/wasanapum/s7.doc

จากเข้อมูลที่ข้าพเจ้า ได้ค้นคว้าเพื่อสนับสนุนความคิด แต่เป็นเพียงการมองไปในส่วนเดียว ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การจะพัฒนาการศึกษาไทยได้จะต้องประกอบไปด้วยหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง เริ่มต้นต้องเกิดจากครอบครัว แต่ปัจจุบันระบบครอบครัวของคนไทยได้ปรับเปลี่ยน ผู้ปกครองจะต้องทำงานนอกบ้านหารายได้ไม่มีเวลาที่จะดูและบุตรหลานจึงต้องยกภาระให้กับคุณครูเพื่อดูแล ส่งบุตรหลานเข้าเรียนตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้ต้องเป็นหน้าที่ของคุณครูที่จะดูแลอบรมสั่งสอน ให้ความรู้วิชาการและคุณธรรมจริยธรรม จึงมีหลายคนให้ความคิดเห็นว่าคุณครูเป็นบุคคลที่มีความสำคัญทางการศึกษามากกว่าครอบครัว ครอบครัวเป็นเพียงส่วนสนับสนุนในการให้บุตรหลานสามารถที่จะเข้าเรียนศึกษาหาความรู้และอบรมจากคุณครู ส่วนผู้บริหารทางการศึกษาเป็นผู้ที่จะออกนโยบายฝ่ายบริหารในการวางแผนและตรวจสอบ เพื่อให้การทำงานของคุณครูเป็นไปตามนโยบายที่วางไว้ จาก 3 กลุ่มที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่าแต่ละกลุ่มจะต้องประสานการทำงานซึ่งกันและกันไม่ควรจะมอบหมายหรือยกภาระให้กับส่วนหนึ่งส่วนใดโดยเฉพาะ จะต้องส่งเสริมสนับสนุนและทำหน้าที่ของแต่ละกลุ่มอย่างเต็มที่ ส่วนครอบครัวก็ดูแลบุตรหลานขณะที่อยู่กับครอบครัวให้ความรัก เวลา และความเข้าใจ ส่วนคุณครูก็ทำหน้าให้ความรู้วิชาการและคุณธรรมจริยธรรม ส่วนผู้บริหารก็ควรวิเคราะห์ภาพรวมวางแผนนโยบายต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาการศึกษาไทย อย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ ....ถ้าแต่ละส่วนทำหน้าที่ของตนเองได้ดี การพัฒนาการศึกษาไทยก็จะไปได้ไกล ยั่งยืน และมีประสิทธิภาพ

1 ความคิดเห็น:

  1. สรุปว่า จุดตั้งต้นของการพัฒนาการศึกษา จะอยู่ที่ครอบครัวใช่หรือไม่

    ตอบลบ